แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวประเทศอินเดีย
แม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย ไหลผ่านประเทศอินเดีย และ บังกลาเทศ มีความยาว 2,525 km (1,569 mi) จากต้นน้ำในเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ไหลลงทางใต้ละตะวันออกผ่านที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาในอินเดียเหนือเข้าสู่ประเทศบังกลาเทศ และไหลลงอ่าวเบงกอล เป็นแหล่งน้ำให้กับประชากร 11% ของโลก เนื่องจากพื้นที่ที่แม่น้ำไหลผ่านเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก และเป็นแม่น้ำใหญ่ที่สุดอันดับที่สามในโลกตามจำนวนการปล่อยน้ำ
แม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในศาสนาฮินดู และเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนริมฝั่งดำรงและดำเนินชีวิตได้ ในทางฮินดูนับถือแม่น้ำคงคาในรูปของพระแม่คงคา นอกจากนี้แม่น้ำคงคายังมีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ราชธานีของจักรวรรดิและอาณาจักรในอดีตจำนวนมากตั้งรกรากริมฝั่งแม่น้ำคงคา เช่น ปาฏลีบุตร Kannauj,[9] การท, มุงเคร์, กาษี, ปัฏณา, ฮะยีปุระ, เดลี, ภคัลปุระ, มูรชีดาบาด, พหรามปุระ, กัมปิลยะ และ โกลกาตา ต้นน้ำหลักของแม่น้ำคงคาอยู่ที่เมืองเทวปรยาค จุดบรรจบกับแม่น้ำอลากานันทา ต้นน้ำทางอุทกวิทยา (เพราะมีความยาวมากกว่า) และ แม่น้ำภาคีรฐี ต้นน้ำในทางตำนานของฮินดู คลิกเพื่อดูโปรแกรมเที่ยวอินเดีย
พิธีอารตีนั้น เรียกตามศัพท์สันสกฤตว่า อารติกยมฺ หรือ นีราชนมฺ ซึ่งหมายถึงการเวียนประทีป
คันประทีปหรือตะเกียงสำหรับทำพิธีอารตีนั้น ทำเป็นภาชนะเหมือนตะเกียงมีด้ามจับถือ อีกด้านมีหลุมสำหรับใส่สำลีชุบน้ำมันเนยหรือก้อนการบูนจุดไฟ มีตั้งแต่หลุมเดียวไปจนถึงหลายสิบหลุม
แบบง่ายที่สุดคือใช้ถาดโลหะ แล้วจุดประทีปหรือการบูนในนั้น หรือแม้แต่ใช้แป้งสาลีปั้นเป็นถ้วยขนาดเล็กทำเป็นหลุมใส่สำลีชุบน้ำมันเนยก็ใช้ได้
ผมเคยไปวัดหนึ่งในอินเดีย ชื่อวัดสิทธิวินายกมหาคณปติที่เมืองกัลยาณ ในรัฐมหาราษฎร์ พราหมณ์ท่านว่า ที่นี่อารตีใช้ผ้าพันไม้จุดไฟอย่างคบเพลิงโบราณ
ส่วนพราหมณ์สยามท่านไม่ได้ใช้น้ำมันเนยหรือการบูนอย่างอินเดีย แต่ใช้เทียนขี้ผึ้งแทน จะด้วยเพราะน้ำมันเนยมิใช่ของหาง่ายในสมัยโบราณ หรือเพราะไม่นิยมก็ตามแต่ และเรียกคันประทีปนั้นว่า “คันชีพ